เรื่องยอดฮิต3 :สุสานหิ่งห้อย Grave of the Fireflies

ชื่ออังกฤษ : Grave of the Fireflies
ชื่อไทย : สุสานหิ่งห้อย
ชื่อญี่ปุ่น : 火垂るの墓 (Hotaru no Haka)
กำกับ : อิซะโอะ ทะกะฮะตะ (Isao Takahata)
อำนวยการสร้าง : โทะรุ ฮะระ (Toru Hara)
เขียนบท : อิซะโอะ ทะกะฮะตะ (Isao Takahata)
ดนตรีประกอบ : มิชิโอะ มะมิยะ (Michio Mamiya)
กำกับภาพ : โนะบุโอะ โคะยะมะ (Nobuo Koyama)
ตัดต่อ ทะเกะชิ เซะยะมะ (Takeshi Seyama)
ค่าย : สตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli)
ความยาว : 88 นาที
ฉาย : 16 เมษายน ค.ศ. 1988



ภาพยนตร์การ์ตูนอนิเมชันลำดับที่ 2 จากสตูดิโอจิบลิที่เป็นที่รู้จักและเรียกน้ำตามาจากทุกคนทั่วโลกแล้วตั้งแต่ปี 1988 ดัดแปลงมาจากหนังสืออัตชีวประวัติของ อะคิยูกิ โนซากะ ผู้สูญเสียน้องสาวตัวน้อย ด้วยสาเหตุจากการขาดอาหารระหว่างสงคราม โดยเป็นการเปรียบเทียบถึงชีวิตของเด็กที่ประสบภัยสงครามเหมือนเช่นหิ่งห้อยที่รอวันดับแสงลง ผลงงานการกำกับโดย อิซะโอะ ทะคะฮะตะ ที่จะทำให้ทุกคนมองเห็นความหดหู่ในสงครามชัด… มากยิ่งขึ้น ผ่านสองพี่น้อง เซตะและเซซึโกะ ซึ่งเคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์คนแสดงมาแล้ว…



เรื่องย่อ


เรื่องราวโศกนาฎกรรมชีวิตของสองพี่น้องชายหญิงในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ เซตะ โยโกกาวา เด็กหนุ่มวัย 14 ปี ลูกชายคนโตของนายพลทหารเรือ และน้องสาว เซซึโกะ อายุ 4 ขวบ จำต้องเดินทางลี้ภัยสงครามออกนอกเมือง แต่เพราะเกิดการทิ้งระเบิดในเมืองระหว่างทาง จึงทำให้แม่ของทั้งสองถูกไฟคอกและเสียชีวิต จนสองพี่น้องต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า





เซตะจำต้องปิดบังเรื่องการตายของแม่จากน้องสาว และพาเซซึโกะออกเดินทางไปอาศัยอยู่กับครอบครัวของป้า โดยมีเพียงผ้าของแม่และสมบัติไม่กี่ชิ้นติดตัว



แต่แล้วในเวลาไม่นาน เมื่อสถานการณ์สงครามเริ่มตึงเครียด ประกอบกับสมบัติที่เซตะและน้องสาวนำติดตัวมาถูกป้าค่อยๆ นำไปขายเพื่อแลกข้าวสารและอาหารหมดลง เซตะและเซซึโกะก็เริ่มตกที่นั่งลำบากมากยิ่งขึ้น เมื่อป้าของเขาเริ่มอารมณ์เสียและชอบพูดกระทบกระทั่งเซตะและน้องสาวบ่อยครั้ง จนเป็นแรงกดดันให้เซตะและน้องต้องออกจากบ้านป้าในที่สุด


เซตะพาเซซึโกะออกเดินทางพเนจรเรร่อนไปเรื่อยๆ จนได้ที่พักอาศัยหลับนอนอยู่ในเหมืองข้างริมน้ำแห่งหนึ่ง โดยหวังพึ่งเพียงเงินเก็บน้อยนิดที่เหลืออยู่ในธนาคารของครอบครัว และการกลับมาของพ่อซึ่งออกไปรบ แต่แล้วความหวังของเซตะก็ต้องพังทลาย เมื่อข่าวการแพ้สงครามของกองกำลังที่พ่อของเขาสังกัดอยู่ไม่มีผู้รอดชีวิตเลยสักคน ทำให้โซตะต้องรับหน้าที่ดูแลน้องตามลำพังเพียงผู้เดียว และไร้ซึ่งความหวังใดๆ ต่อไป



ด้วยความเป็นเด็กทำให้เงินก้อนสุดท้ายของเซตะละลายหายไปกับสิ่งของที่ไร้ประโยชน์ เซตะและน้องสาวเริ่มหาอาหารประทังชีวิตยากลำบากขึ้น จนต้องอาศัยการขโมยผืชผักผลไม้จากชาวไร่ชาวสวนกินประทัง หรือไม่ก็เก็บขยะที่หลงเหลือจากไฟสงครามไปขายเพื่อแลกอาหาร


การออกจากบ้านไปนานๆ บ่อยครั้งของเซะตะนี้เอง ทำให้เซซึโกะต้องใช้ชีวิตลำพังตามประสาเด็ก โดยไม่มีใครคอยดูแล นี่จึงเป็นที่มาของการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของเซตะอีกครั้ง เมื่อครอบครัวเพียงคนเดียวของเซตะที่เหลืออยู่อย่าง เซซึโกะ น้องสาวของเขาเริ่มค่อยๆ ล้มป่วยลง โดยที่เซตะไม่สามารถช่วยอะไรได้…


เรื่องราวสงครามชีวิตที่หดหู่ใจไม่แพ้ไฟสงครามใดๆ ของสองพี่น้องชาวญี่ปุ่น เซตะและเซซึโกะ ที่ถูกเปรียบเทียบเหมือนกับแสงหิ่งห้อยที่รอคอยวันมืดดับลงจะจบลงเช่นไร? นี่คือการ์ตูนอนิเมชั่นที่เรียกน้ำตาและได้รับรางวัลการันตรีผลงานคุณภาพมาแล้วจากทั่วโลก ผลงงานลำดับที่ 2 ของสตูลดิโอจิบบลิ ตั้งแต่ปี 1988 โดยผลงงานการกำกับโดย อิซะโอะ ทะกะฮะตะ (Isao Takahata)



ตัวละคร 


เซตะ โยโกกาวา 



เด็กหนุ่มอายุ 14 ปี ลูกชายคนโตของนายพลทหารเรือ และมีน้องสาวหนึ่งคนชื่อ เซซึโกะ อาศัยอยู่ในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่ไฟงครามจะพรากทุกชีวิตในครอบครัวไปจากเขา รวมถึงชีวิตของตัวเขาเองด้วย




เซซึโกะ โยโกกาวา



 น้องสาวของเซตะ วัย 4 ขวบ เป็นเด็กเลี้ยงง่าย
และมองโลกในแง่ดี ชอบกินลูกอมเป็นอย่างมาก และมักตามติดพี่ชายของเธอเสมอ






ป้าของเซตะและเซซึโกะ

ป้าของเซตะและเซซึโกะ อาศัยอยุ่กับสามีและลูกอีกสองคน ซึ่งเซตะและเซซึโกะเคยเขาไปขอพักอาศัยกับเธอภายหลังจากแม่ของพวกเขาเสียชีวิต








Rank Anime B คะแนน 80/100

เป็นการ์ตูนที่ได้รับการพูดถึงมากเรื่องหนึ่งเช่นกัน สำหรับ “สุสานหิ่งห้อย” ที่ถึงแม้เวลาจะผ่านล่วงเลยมากว่า 2 ทศวรรษแล้ว แต่ความหดหู่ใจจากไฟสงคราม ที่ทำให้เกิดสงครามชีวิตของเด็กสองพี่น้อง ก็ยังคงทำให้หลายๆ คนจดจำอนิเมะเรื่องเก่านี้ได้อย่างไม่ลืม ซึ่งหากเปรียบเทียบถึงคุณภาพอนิเมะในสมัย 1988 นั้น ถือว่าอนิเมชั่นเรื่องนี้ไม่ใช่ธรรมดาเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีเนื้อหาลึกซึ้ง และแสดงให้เห็นถึงปัญหาแก่นแท้ที่ผู้คนสมัยก่อนต้องประสบในช่วงสงครามโลกมาแล้ว

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แม้เนื้อเรื่องจะเป็นไปในทิศทางที่สามารถเรียกน้ำตาจาคนดูได้ไม่ยาก แต่สำหรับส่วนตัวผู้เขียน ค่อนข้างเฉยๆ เนื่องจากเนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรซับซ้อนมากนัก อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งมาจากด้วยวิธีการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา และต้องการแสดงให้เห็นถึงความจริงที่เกิดขึ้นในสงครามก็ได้ ดังนั้นถึงแม้จะมเนื้อเรื่องที่สะเทือนใจและต้องการจะสื่อถึงความสำคัญของกฏหมายคุ้มครองเด็กที่ประสบภัยสงครามก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ส่วนตัวผู้เขียนประทับใจกับการ์ตูนอนิเมเรื่องนี้มากนัก คะแนน 80/100 จึงมีที่มาด้วยประการฉะนี้…. (ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ 5555)

ใครยังไม่เคยดูก็หามาดูก็แล้วกัน…
ยังไงก็ถือเป็นผลงานคุณภาพอีกเรื่องี่รับประกันคุณภาพโดยสตูลดิโอจิบบลิ :)

ตัวอย่างอนิเมชั่น



เรื่องจริงของสุสานหิ่งห้อย - Grave of the Fireflies การ์ตูนชื่อดังจากญี่ปุ่น


ภาพถ่ายจริงของ"สุสานหิ่งห้อย - Grave of the Fireflies"
     ภาพนี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพชาวอเมริกัน Joe O'Donnell ในเมืองนางาซากิ ปี 1945
เขาให้สัมภาษณ์กับสือ ว่า "ผมเห็นเด็กชายคนหนึ่งอายุ ประมาณ 10ขวบ แบกเด็กน้อยไว้ที่หลังของเขาตลอดเวลา

    ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าในประเทศญี่ปุ่น เรามักจะเห็นเด็กที่มีน้องชาย น้องสาว แบกน้องไว้ที่หลังตัวเองเป็นปกติอยู่แล้ว  แต่เด็กคนนี้ เห็นได้ชัดว่า มีอะไรบางอย่างที่แตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ เหมือนเค้ามายืนอยู่ตรงนี้ด้วยเหตุผลที่ซีเรีย มีสีหน้าเคร่งเครียด และไม่ได้สวมรองเท้า ส่วนเด็กน้อยที่อยู่บนหลัง หงายศีรษะขึ้น ราวกับคนที่เพิ่งจะหงายหลับไปด้วยความเร็ว"

"เด็กชายคนนี้ยืนอยู่ตรงนั้น นานประมาณ 5-10นาทีเห็นจะได้ ก็มีชายสวมหน้ากากปิดปากสีขาว เขาไม่พูดจาอะไร เดินอ้อมไปที่เด็ก
แล้วอุ้มเด็กทารกที่หลังเด็กชายออกมา นั่นแหละผมถึงรู้ว่า เด็กทารกที่เห็นนั้นได้ตายไปแล้ว จากนั้นผู้ชายก็เอาร่างของเด็กทารกวางบนกองไฟ"

"เด็กชายก็ยังคงยืนดูเปลงไฟอยู่ตรงนั้น ไม่ไปไหน ผมดูที่หน้าเขาเห็นเขากัดริมฝีปากล่างอย่างแรงจนเลือดไหล จนกระทั่วเปลวไฟมอดลง
ดวงอาทิตย์ก็กำลังจะตกดินแล้วเช่นกัน เด็กชายมองหันไปรอบๆตัว แล้วก็เดินออกไปอย่างเงียบๆ"

แปลจาก http://mew96.tumblr.com/post/37889582536/real-life-grave-of-the-fireflies-photo-stoic




    การ์ตูนอนิเมชั่นเรื่อง สุสานหิ่งห้อย (ญี่ปุ่น: 火垂るの墓 Hotaru no Haka ?) (อังกฤษ: Grave of the Fireflies) เป็นภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันของสตูดิโอจิบลิ ซึ่งเป็นบริษัทสร้างภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น หนังดัดแปลงมาจากหนังสืออัตชีวประวัติของ อะคิยูกิ โนซากะ ผู้สูญเสียน้องสาวตัวน้อยๆ ด้วยสาเหตุจากการขาดอาหารระหว่างสงคราม สุสานหิ่งห้อยออกฉายในปี ค.ศ. 1988 กำกับโดยอิซะโอะ ทะคะฮะตะ
  //ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia

     Grave of the Fireflies หรือสุสานหิ่งห้อย เป็นการ์ตูนที่ดิฉันมั่นใจว่าถ้าใครได้ดูแล้วต้องฝังใจ
เพราะความเลวร้ายของสงคราม และความรักมากมายที่ล้นเอ่อ ของสองพี่น้อง จนไม่สามารถห้ามน้ำตาของคุณให้หยุดไหลได้แน่นอน ..
     นักประพันธ์เรื่องนี้เปรียบหิ่งห้อยเป็นชีวิตของเด็กๆ ในช่วงสงครามเป็นดั่งแสงของหิ่งห้อย
หิ่งห้อยเป็นสัตว์ที่ตายง่าย เมื่อใดที่หิ่งห้อยตาย แสงของหิ่งห้อยก็จะหมดลง
เสมือนชีวิตและความหวังริบหรี่ของเด็กๆในช่วงสงครามนั่นเอง

สิ่งที่คนดูเรื่องนี้แล้วติดตาคือ ลูกอมกระปุกนี้แน่นอน


มันมีขายอยู่จริงๆ ขอบคุณภาพจาก lagnadan.exteen.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก